“ซีเนียร์คอม เปิดตัวซอฟต์แวร์ใหม่ H-Meter Capital Experience Version BOT Comply ช่วยผู้ประกอบการสินเชื่อเช่าซื้อทั่วประเทศ ปรับตัวรับกฎใหม่ธปท. ด้วยต้นทุนที่เข้าถึงได้”

บริษัท ซีเนียร์คอม จำกัด ผู้ประกอบการด้านซอฟต์แวร์สำหรับอุตสาหกรรมการเงินและยานยนต์กว่า 30 ปี ประกาศเปิดตัวแพลตฟอร์ม H-Meter_Capital Experience Version BOT Comply ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อช่วยให้ผู้ประกอบธุรกิจเช่าซื้อและลีสซิ่ง

ให้สามารถปฏิบัติตามกฎเกณฑ์การกำกับดูแลฉบับใหม่ ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 ธันวาคม 2568 โดยชูจุดเด่นในการเป็น เครื่องมือที่ทรงประสิทธิภาพ ครบวงจร และที่สำคัญคือ มีต้นทุนที่สมเหตุสมผล ช่วยลดภาระให้ผู้ประกอบการ ทุกขนาด โดยเฉพาะรายกลางและรายย่อย

H-Meter Capital เวอร์ชันล่าสุด รับกฎใหม่ของ BOT

สุพนิต อึงอารี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (COO) บริษัท ซีเนียร์ คอม จำกัด กล่าวว่า “เราเข้าใจถึงแรงกดดันที่ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กกำลังเผชิญหน้า”

“ซีเนียร์คอม ที่ดำเนินธุรกิจมากว่า 30 ปี มองเห็นโอกาสในการนำเทคโนโลยีมาช่วยอำนวยความสะดวกให้กลุ่มธุรกิจที่ต้องการ ให้บริการสินเชื่อ สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยต้นทุนที่สมเหตุสมผล เป้าหมายของเรา คือ การเปลี่ยนความท้าทายด้านกฎระเบียบให้เป็นโอกาสในการยกระดับธุรกิจ”

“โดยเฉพาะแพลตฟอร์ม H-Meter_Capital Experience Version BOT Comply ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยให้สถาบันการเงินสามารถปรับตัวได้ไวที่สุด และเริ่มต้นใช้งานได้ทันกับกำหนดการประกาศใช้ พ.ร.ฎ. เช่าซื้อ-ลีสซิ่ง“

“ด้วยการทำงานแบบครบวงจร ใช้ได้ทั้งกลุ่มรายย่อยและรายใหญ่ สามารถบริหารจัดการสินเชื่อได้อย่างโปร่งใสและเป็นธรรม ซึ่งตอบโจทย์มาตรฐานของ ธปท. ได้อย่างสมบูรณ์”

“เป็นคำตอบสำหรับผู้ประกอบการทุกรายให้สามารถเข้าถึงเครื่องมือที่เป็นมาตรฐานเดียวกับสถาบันการเงินขนาดใหญ่ได้ โดยไม่ต้องลงทุนพัฒนาระบบเองซึ่งมีราคาสูงและใช้เวลานาน”

“แพลตฟอร์ม H-Meter_Capital ถูกออกแบบมาเป็น Turnkey Solution ที่ครอบคลุมการทำงานตั้งแต่การยืนยันตัวตน การตรวจสอบเครดิต การประเมินความเสี่ยง การสร้างใบคำขอสินเชื่อ การทำสัญญา การบริหารจัดการรายการชำระเงิน ไปจนถึงการติดตามหนี้” สุพนิต อธิบาย

เพิ่มเทคโนโลยีรองรับกระบวนการดิจิทัล

แพลตฟอร์ม H-Meter Capital เวอร์ชันที่รองรับกฎระเบียบใหม่ของธนาคารแห่งประเทศไทยได้เพิ่มความสามารถในเชิงเทคโนโลยีหลายประการประกอบด้วย ระบบยืนยันตัวตนดิจิทัล (E-KYC) และ NDID เพิ่มความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ช่วยประมวลผลและจัดทำเอกสารได้อย่างแม่นยำ รวมถึงการปรับเงื่อนไขสินเชื่อให้เหมาะสมกับลูกหนี้แต่ละราย

ความสามารถด้านการคำนวณที่โปร่งใส ที่จะคำนวณยอดปิดบัญชีพร้อมอัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรมตามสัญญา ทำให้ผู้ประกอบการสามารถปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของ พ.ร.ฎ. ได้อย่างไม่ยุ่งยาก และการรายงานผ่าน Dashboard สำหรับผู้บริหาร แสดงภาพรวมธุรกิจแบบ Real-Time วิเคราะห์ข้อมูล พยากรณ์กระแสเงินสดจากการรับชำระ

บริหารจัดการได้ครอบคลุม ครบวงจร

ในขณะที่ความสามารถในเขิงการบริหารจัดการนั้น ได้รับการพัฒนาให้เป็นโซลูชันที่พร้อมใช้งานได้ทันที และสอดคล้องกับกฎระเบียบของ ธปท. อย่างสมบูรณ์ เพื่อช่วยผู้ประกอบการลดต้นทุนและความซับซ้อนในการปรับตัว โดยมีคุณสมบัติเด่นดังนี้

ต้นทุนที่เข้าถึงได้ ออกแบบมาสำหรับธุรกิจทุกขนาด มีแพ็กเกจที่ยืดหยุ่นสำหรับธุรกิจขนาดกลาง(Identity) และขนาดใหญ่ (Performance) ทำให้ผู้ประกอบการสามารถเลือกใช้โซลูชันที่เหมาะสมกับขนาดและงบประมาณของตนเองได้

ลดภาระการรายงาน มีฟีเจอร์สำหรับจัดทำและส่งรายงานถึง ธปท. ตามข้อบังคับ ช่วยลดขั้นตอนที่ยุ่งยากและป้องกันความผิดพลาด

ครบวงจรในหนึ่งเดียว ครอบคลุมทุกกระบวนการสินเชื่อ ตั้งแต่การประเมินเครดิตลูกค้า (Credit Scoring) การจัดการสัญญา ไปจนถึงการติดตามทวงถามหนี้และการจัดการด้านกฎหมาย ช่วยให้การดำเนินงานเป็นไปตามหลักการของ ธปท. ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ติดตั้งรวดเร็ว ใช้งานง่าย ด้วยประสบการณ์ของบริษัท ทำให้สามารถติดตั้งระบบและพร้อมใช้งานได้ในเวลาอันสั้น ช่วยให้ผู้ประกอบการปรับตัวสู่กฎเกณฑ์ใหม่ได้อย่างรวดเร็ว

ปัจจุบัน H-Meter_Capital เริ่มให้บริการแก่บริษัทชั้นนำในวงการสินเชื่อเช่าซื้อและลีสซิ่งหลายแห่งมาระยะหนึ่งแล้ว โดยมีบัญชีผู้ใช้งานระบบ (concurrent user) กว่า 10,000 คน ปริมาณธุรกรรมเฉลี่ยกว่า 5 ล้าน รายการต่อเดือน

และมีมูลค่าพอร์ตสินเชื่อที่บริหารจัดการผ่านระบบสูงกว่า 10,000 ล้านบาท สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของการกระบวนการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อเช่าซื้อ โดยใช้ระยะตลอดเวลาของการพิจารณาราว 15-20 นาที และมีแนวโน้มในการพัฒนาให้ผู้ประกอบการใช้เวลาพิจารณาได้เร็วขึ้น แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการดำเนินงานได้อย่างชัดเจน

สำหรับกฎเกณฑ์ใหม่ของ ธปท. นั้น กำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ทุกราย ต้องรายงานตัวและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลที่เข้มข้นขึ้น ซึ่งนำมาสู่ความท้าทายสำคัญคือต้นทุนในการปรับปรุง ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการปรับกระบวนการทำงานให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ใหม่

เช่น การให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบ (Responsible Lending) ภาระด้านต้นทุนนี้ถือเป็น Pain Point สำคัญที่อาจส่ง ผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันและการอยู่รอดของผู้ประกอบการรายย่อยจำนวนมาก